Saturday, August 23, 2014

ปักหมุด"ของสหรัฐหกคะเมนที่ประเทศไทย

August 23, 2014 (Tony Cartalucci - Original English via NEO: US “Pivot” Stumbles in Thailand)

19 สิงหาคม 2557 (โทนี่ คาร์ตาลุชชี่) หลายเดือนหลังจากการยึดอำนาจ เมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 ซึ่งหยุดยั้งระบอบทักษิณ รัฐบาลทหารได้ขันแข็งในการถอนรากจักรกลทางการเมืองของทักษิณ และจัดระเบียบนโยบายต่างประเทศของราชอาณาจักร ให้แสดงสมดุลย์ที่ดีขึ้นระหว่างอำนาจที่กำลังรุ่งของจีน กับอิทธิพลที่กำลังร่วงโรยแต่ชอบก้าวก่ายของตะวันตก

ถอนรากอิทธิพลอันมิชอบของตะวันตก

ระบอบทักษิณที่มียิ่งลักษณ์ น้องสาวของตน เป็นหุ่นเชิด ได้แสดงให้เห็นความไม่เสมอภาคในสมดุลย์อันนี้ ตระกูลชินวัตรมีความสนิทสนมมักคุ้นกับตระกูลบุช โดยเป็นสมาชิกของคาร์ไลล์กรุ๊ป และตั้งแต่ทักษิณเองถูกยึดอำนาจในปี 2549 เขาก็มีกลุ่มตัวแทนอย่างเปิดเผย เป็นบริษัทล็อบบี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ เคนเนธ อเดลแมน ของบริษัทพีอาร์ อเดลแมน (ฟรีดอมเฮ้าส์  อินเตอร์เนชั่นแนลไครซิสกรุ๊ป (PNAC) เจมส์ เบเคอร์ ของเบเคอร์ บอทส์ (CFR คาร์ไลล์กรุ๊ป) โรเบอร์ต แบลควิลล์ (CFR) ของ บาร์เบอร์ กริฟฟิธแอนด์โรเจอร์ส์ (BGR) โคเบรแอนด์คิม เบลล์ พอตติงเกอร์ และในปัจจุบัน โรเบอร์ต อัมสเตอร์ดัม แอนด์พาร์ทเนอร์ส์ (แชแธม เฮาส์) 

ขณะมีอำนาจ ทักษิณมีจุดยืนชัดเจนในการโปรตะวันตก ทั้งด้านเศษฐกิจและภูมิศาสตร์การเมือง จนได้รับการต่อต้านจากกองทัพและประชาชนคนไทย ทักษิณส่งกองทหารไปช่วยรบในสงครามรุกรานและยึดครองอีรัก ที่ผิดกฎหมาย ทักษิณอนุมัติให้สหรัฐใช้ดินแดนไทยเป็นค่ายลับเพื่อเค้นความลับนักโทษการเมืองอย่างน่าสะอิดสะเอียน ทักษิณยังได้พยายามผลักดันให้เกิดข้อตกลงการค้าเสรีกับเศรษฐีสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย และไม่เกิดประโยชน์แก่คนไทย

ตั้งแต่ตุลาคม 2556 ขณะที่การประท้วงระบอบทักษิณเริ่มขยายวง สื่อตะวันตกก็มีจุดยืนชัดเจนที่โปรระบอบทักษิณ โดยไม่นำพาแม้แต่น้อยต่อความโหดเหี้ยมของระบอบทักษิณในการใช้การก่อการร้ายและการสังหารหมู่กับคู่ต่อสู้ทางการเมือง คู่กันไปกับการสร้างนิยายของ"พวกหัวรุนแรงต้านประชาธิปไตย"ที่หวังโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างประชาธิปไตย

เมื่อเกิดรัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557 ความรู้สึกต่อต้านรัฐประหารไม่มีอยู่จริง ดังที่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหนัา ไม่มีการแตกแยกที่มีนัยยะในสังคมไทย การเลือกตั้งเป็นเพียงการแจกของ ซื้อเสียง คนสนับสนุนทักษิณจริง ๆ มีไม่ถึงร้อยละสิบ

ประเทศไทยหาสมดุลย์ใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

จีน ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค เป็นมหาอำนาจที่กำลังเติบโต  จีนเป็นทั้งโอกาสและภัยคุกคามในศักยภาพ  หากขาดการตรวจสอบ การบูรณาการกับจีนอย่างไร้วิจารณญานจะพาไปสู่การมีอิทธิพลที่ไม่พึงปรารถนาของจีน เฉกเช่นที่ตะวันตกกำลังกระเสือกกระสนทำอยู่  เป้าหมายคือสมดุลย์ที่ลงตัวในกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถสานประโยขน์ของทุกฝ่ายในภูมิภาคแปซิฟิกที่กำลังแผ่อิทธิพลเข้ามายังภายในดินแดนไทย


กระแสต้านตะวันตกในหมู่ผู้ชุมนุมประท้วงที่ขับไล่ระบอบทักษิณได้สำเร็จ ได้รับการสานต่ออย่างนักการทูตและอย่างระแวดระวังมากขึ้นโดยรัฐบาลทหาร ภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อารมณ์ต่อตะวันตกเป็นไปในทิศทางของความสัมพันธ์ในสมดุลย์ใหม่ ไม่ใช่ตัดขาดจากกัน เว็บไซต์ของนักสังคมศาสตร์โลก (WSWS) สรุปไว้เช่นที่กล่าวมาในบทความเรื่อง"คณะยึดอำนาจในไทยแสวงหาการยอมรับอย่างเปิดเผยมากขึ้นจากวอชิงตัน" โดยอ้างว่า:
ขณะที่วอชิงตันจับตาการเจรจาของกรุงเทพฯกับปักกิ่งอย่างใกล้ชิด คณะผู้ยึดอำนาจได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ความสัมพันธ์กับสหรัฐฯเสื่อมถอย กลายเป็นว่า คณะผู้ยึดอำนาจกำลังใช้มิติของการกระชับความสัมพันธ์กับจีนมาเป็นหมากต่อรองเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน กองทัพก็เคลื่อนตัวอย่างระแวดระวัง โดยตระหนักดีว่าหากกองทัพโอบรับปักกิ่งอย่างเปิดเผยเกินไป วอชิงตันก็อาจลุกขึ้นมาอเปหิคณะผู้ยึดอำนาจ

แม้ WSWS โน้มเอียงที่จะหนุนทักษิณสำหรับนโนบายประชานิยมจอมปลอม โดยยอมมองข้ามสายสัมพันธ์อันแนบแน่นสม่ำเสมอกับวอลล์สตรีท กระนั้นก็ดี WSWS ก็ยังเห็นชัดว่าสายสัมพันธ์กับตะวันตกที่แนบแน่นสมัยระบอบทักษิณมาถึงจุดแตกหักที่ประจักษ์ชัด

ดังที่ WSWS ให้ข้อสังเกตุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กระชับความสัมพันธ์กับปักกิ่งอย่างชัดเจนและมีนัยสำคัญ จีนให้การยอมรับอำนาจและความชอบธรรมของรัฐบาลทหารทันทีที่มีการยึดอำนาจจากระบอบทักษิณที่กำลังพังพาบในเดือนพฤษภาคม จีนขานรับการตัดสินใจของรัฐบาลใหม่ที่จะเดินหน้าโครงการทางรถไฟไทย-จีน ที่พูดกันมานาน เมื่อไทยปรับสมดุลย์ตะวันออกกับตะวันตกใหม่ จีนเสนอโอกาสให้กรุงเทพฯเป็นสมาชิกก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเซีย (Asian Infrastructure Investment Bank) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ BRICS เพื่อมาแทนที่การผูกขากของ IMF และธนาคารโลกที่ถูกครอบงำและผลักดันโดยผลประโยชน์ตะวันตก

หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่นรายงานในบทความเรื่อง"ประเทศไทยช่วยเปิดตัวธนาคารเพื่อการลงทุนสำหรับเอเชีย"ว่า:
ประเทศไทยได้รับการเชื้อเชิญจากจีนให้เป็นหนึ่งในบิดาผู้ก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเซีย (AIIB) ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยธนาคารแห่งชาติของแต่ละประเทศ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติกล่าวว่า"ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ" จากการเปิดเผยของสำนักงบประมาณ (FPO) ประเทศไทยได้รับการทาบทามให้ลงนามข้อตกลงในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของรัฐบาลทหารของไทยในด้านความสัมพันธ์กับจีนจึงเท่ากับเป็นการเพิ่มพื้นที่ในการทัดทานกับตะวันตกที่หาโอกาสอยู่ตลอดเวลาที่จะอเปหิชาติที่ไม่ให้ความร่วมมือ ตะวันตกยังไม่สามารถหาอะไรมานำเสนอเป็นแรงจูงใจให้ประเทศไทยได้ นอกจากคำขู่ และการกดดันที่ทวีคูณเท่าไรก็ไร้ผล

จีนคือโอกาส ตะวันตกคือภัยคุกคาม

ที่สุดแล้ว ขณะที่จีนเสนอโอกาสแก่ไทยในการร่วมมือกันสร้างตลาดเชิงเศษฐกิจ และกระชับความสัมพันธ์ระดับภูมิภาค ตะวันตกกลับหาทางออกด้วยการโจมตีทางสังคมศาสตร์การเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังที่จะกัดกร่อนความน่าเชื่อถือและเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่ของไทย

ความพยายามล่าสุดมาในรูปของการกล่าวหาที่เลื่อนลอยไร้พื้นฐานของกริชสุดา คุณะแสน นักโฆษณาชวนเชื่อที่สุจริตธรรมบกพร่องของระบอบทักษิณ เธออ้างว่าถูก"ทรมาน"โดยทหาร ขณะถูกควบคุมตัว เธออ้างว่าเธอถูกซ้อม ขณะที่คนของระบอบทักษิณทุกคนที่ถูกควบคุมตัว ต่างเปิดเผยว่าได้รับการปฏิบัติอย่างมีมนุษยธรรมและมีเกียรติ  แม้ไม่มีหลักฐานทางกายภาคใด ๆ นักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนตะวันตกต่างก็ออกมาเรียกร้องให้มีการสอบสวนโดยทันที น่าขัดแย้งในตัวมันเอง ที่เมื่อ 6 เดือนก่อนการยึดอำนาจ กลุ่มสนับสนุนทักษิณได้ก่อเหตุความรุนแรงด้วยอาวุธอย่างเป็นระบบ ที่สังหารคนไป 20 กว่าศพ ทำให้คนพิการไปนับร้อย ๆ ในการโจมตีการชุมนุมแทบทุกคืนด้วยอาวุธสงครามและระเบิด กลุ่มนักเคลื่อนไหวกลุ่มเดียวกันกลับเงียบงันดั่งเป่าสาก ตลอด 6 เดือนที่มีหลักฐาน วัตถุพยาน ของความรุนแรง มาตอนนี้กลับเรียกร้องขอการสอบสวนเรื่องการ"ทรมาน"ที่ไร้หลักฐาน

กระนั้นก็ตาม รัฐบาลทหารในกรุงเทพฯก็พยายามรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับตะวันตก เพื่อรักษาสมดุลย์ของมหาอำนาจที่กำลังช่วงชิงการนำในภูมิภาค ประเทศไทยไม่อยากจะนำพาตนเองไปอยู่ในสถานการณ์การเผชิญหน้า ยุทธศาสตร์แยบคายอันนี้ได้ทำให้ไทยเป็นประเทศเดียวในเอเชียอาคเนย์ที่รอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกาของการล่าอาณานิคมของตะวันตก โดยการหลบให้อังกฤษ ฝรั่งเศส และผลประโยชน์เอเชีย เผชิญหน้ากันเอง และการรู้จักโอนอ่อนในเงื่อนไขที่สำคัญน้อยกว่าและพลิกกลับได้ ไทยสามารถเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมหาอำนาจที่มุ่งทำลายและควบคุมประเทศอื่น

ทว่า ไม่ว่ากรุงเทพฯจะพยายามสมดุลย์ตะวันตกกับตะวันออกอย่างระมัดระวังเพียงใดก็ตาม ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งย่อมสมประโยชน์มากกว่าอีกฝ่ายเสมอ ในหลายทศวรรษที่ผ่านมา ตะวันตกดูจะเป็นผู้มีพระคุณ วันนี้จีนกำลังหยิบยื่นโอกาสของจริงให้แก่ไทย แต่ตะวันตกให้แต่คำขู่ การคุกคาม การกดดัน จึงชัดเจนอยู่แล้วว่าไทยจะเอียงไปทางใด ความเคลื่อนไหวของกรุงเทพฯที่จัดสมดุลย์ใหม่ให้นำ้หนักมากขึ้นกับปักกิ่งได้เกิดขึ้นแล้ว

ในเดือนปีต่อจากนี้ไป ไทยและผู้สนใจในโลกพหุขั้วย่อมต้องเฝ้าจับตาการจัดสมดุลย์ของกรุงเทพฯครั้งนี้ และใช้หลักการเชิงซ้อนของภูมิศาสตร์การเมืองในการใช้วิจารณญาณแยกแยะระหว่างการสมดุลย์กับการยอมโอนอ่อน  ขณะเดียวกันก็ให้กำลังใจรัฐบาลทหารและรัฐบาลผู้สืบทอดอำนาจ ในการดำเนินการทุก ๆ ย่างก้าว ที่จะเสริมสร้างประเทศจากภายใน เพื่อว่าในอนาคตประเทศจะไม่ต้องพึ่งพากับการสมดุลย์ตนเช่นนี้มากจนเกินไป

Tony Cartalucci, Bangkok-based geopolitical researcher and writer, especially for the online magazine New Eastern Outlook”.